วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

ฝนมา .... ฝนไป



โปรยปรายลงมาพร้อมกับลมเย็นๆที่พลัดผ่านร่างกายเราไป เสียงดัง "แหมะๆ" "แปะๆ" "โครม"และ "คราม" ให้เราได้ยินเสมอ

ทุกครั้งไปเมื่อลมเย็นๆที่ผ่านเรามาพร้อมกับกลิ่นแห่งความชื่นช่ำทำให้มีความสุขได้ทุกเมื่อที่สัมผัสกับมัน

เคยรึเปล่าที่เมื่อเวลาที่เราคิดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถึงมันอาจจะยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม มันทำให้เรารู้สึกมีความสุขกับมันเสมอ หรือ อาจจะเป็นการรอคอยที่กำลังจะสิ้นสุดในไม่ช้า ทำให้เราคิดถึงมันอยู่ตลอดเวลาไม่รู้สึกเบื่อ

กับความคิดถึงใครสักใครแค่ได้ยินเสียงเค้าไม่กี่วินาที เห็นหน้าเค้าเพียงแค่นาที แค่นั้นก็ทำให้หัวใจได้มีเลือดไหลเวียนผ่านห้องทั้ง 4 อย่างช้าๆแต่ รู้สึกดีอย่าบอกใคร

อย่าเกลียดความทุกข์ เพราะมันคือทางผ่านไปหาความสุข อาจจะสั้นหรือยาว ตัวเราเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนด เมื่อผ่านมันซ้ำๆบ่อยๆครั้งไปแล้ว เราอาจจะคิดว่ามันสั้นจนทำให้เราแปลกใจทีเดียว

ทุกสิ่งในโลกล้วนต้องการ ความสมดุล (มันอ่านได้ทั้ง สะ-มะ-ดุน และก็ สม-ดุน น่ะครับ) น้ำที่หล่นลงมาจากฟ้าหล่นลงมาทีไร ต้นไม้ ใบหญ้าก็ได้รับความชุ่มชื่นนั้นเช่นกันไม่แพ้กับคน

ฝนตกลงมาจากฟ้าเมื่อใดไม่ทราบแน่ชัด แต่ทุกทีที่ฝนจากไปใจเราก็ห่วงหาทุกครั้งไปทีเดียว

ไม่ต่างอะไรกับความรักและความคิดถึง ไม่ต้องคาดหวังหรอกครับว่ามาเมื่อไหร่แต่เมื่อใดที่มันผ่านมาแล้ว มีโอกาสที่จะดูแล รีบทำน่ะครับ ก่อนที่ความรักจะจากไปเหมือนฝน ที่ไม่มีวันคาดเดาวันเวลาที่จะตกลงมาได้

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

ต่างพื้นดิน ฟ้าเดียวกัน













มันก็ต่างกันแค่กรอบที่กั้นระหว่าง 2 สิ่งที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเท่านั้นเอง..

คืนที่ไม่ได้หนาวเหน็บอย่างใน MV เพลงเศร้าหลายๆเพลงที่มีให้เราเห็น หรือไม่ได้มีสายฝนโปรยปรายลงมาให้บรรยากาศมันดูเศร้าขนาดนั้น แต่ก็ไม่แปลกที่ยังอยากเศร้าโดยที่มีเหตุผล

ทุกคนมีความฝัน และผมเชื่ออย่างนั้นว่าทุกคนมีความฝัน ความฝันที่ผมจะกล่าวถึงไม่ใช่ความฝันที่จะได้พบกันแค่ครั้งคราวเวลาเรานอนหลับแต่ความฝันที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนี้คือ 'จุดมุ่งหมาย'

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำถามว่า 'ฝันอยากที่จะเป็นอะไร?' ผมตอบไม่ได้หรอกครับเพราะผมไม่ีรู้ว่าผมอยากเป็นอะไร แต่หลายคนคงมีคำตอบชัดอยู่แล้วในสมุดบันทึก หนังสือเท็กส์บุคเล่มหนาๆ หรืออาจจะเป็นธุรกิจที่เค้าได้ดูแลอยู่ในขณะนี้

คุณเป็นคน 'ใฝ่ฝัน' หรือ 'ฝันใฝ่' ครับ สำหรับผมแ้ล้วเป็นคนที่ชอบ 'ใฝ่' ที่จะ 'ฝัน' มากกว่า 'ฝัน' แล้วถึง 'ใฝ่' พูดง่ายก็คือเป็นคนชั่งฝันมากกว่าที่จะทำ ผมชอบที่จะวนเวียนอยู่ในกรอบแห่งความฝันหรือในห้องที่เรียกว่า
'จินตนาการ'มากกว่าลงมือกระทำ

แย่น่ะครับที่เป็นแบบนี้ไม่ได้ลงมือกระทำสักที ผมทำไปบ้างแล้วแหละครับอาจจะไม่ขนาดถึงกับ 'ใฝ่' ผมทำตาม'ใจ' มากกว่าที่จะทำตาม'หัว' เลยไม่เป็นรูปเป็นร่างเสียที ผิดกับที่หลายคนทำตาม'หัว'ก่อนแล้วค่อยใช้'ใจ' ตามมามันเลยเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าผมเสียอีก

ถึงกระนั้นก็เถอะ มันก็ยังมีอยู่ไม่กี่อย่างที่ผมอยากจะทำและทำให้ได้ ไม่บอกหรอกครับว่ามีอะไรบ้างและเชื่อว่าคุณก็คงไม่อยากรู้ แต่้ถ้าเธอคนที่ผมรักที่สุดได้เข้ามาอ่านจริงๆ ผมก็อยากจะแอบบอกหน่อยว่าหนึ่งในฝันของผมก็คือคุณ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ถ้าเธอเป็นคนสุดท้ายที่ผมรักได้ แม้เธอจะต้องไปจริงๆ ผมก็พร้อมที่จะรอวันที่เธอกลับมา ไม่ใช่พระเอกหรอกน่ะครับ แต่'ใจ'และ'หัว'ผมบอกกับตัวเองอย่างนี้จริงๆ

ทุกครั้งที่ทำแย่ๆ ไปถ้าให้ย้อนกลับไปแก้ได้ นั้นก็คงเป็นอีกหนึ่งฝันที่ผมอยากทำมากที่สุด เชื่อเถอะครับผมยอมแพ้ให้กับ โชคชะตา ของผมแล้วผมไม่อยากจะมองหา พรหมลิขิต เหมือนที่เค้าบอกอีกต่อไปแล้ว อยากจะปล่อยมันไว้ตรงนี้ แล้วก็บอกกับ โชคชะตาว่า 'ผมไม่ต้องการใครอีกแล้วน่ะครับ' ไม่ต้องหาให้ผมอีกต่อไป

ความฝัน และ ความจริง บางทีมันก็เดินไปด้วยกันจนคุณไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ทุกๆวันที่คุณตื่นขึ้นมาอาจจะเป็นวันที่คุณไม่เื่ชื่อว่าความฝันของคุณที่เมื่อก่อนยังเป็นไข่ที่ได้รับการอุ้มชูเลี้ยงดูมันในความจริง ได้ฟูมฟักจนกลายเป็นความจริงเล็กๆขึ้นมา

แล้ววันนั้นคุณจะรู้ครับว่าก้อนไข่ความฝันของผม มันเป็นความจริงให้คุณเห็นได้หรือเปล่า

ผมยังเชื่อในความรักเสมอ..